หญ้าฮี๋ยุ่ม
ชื่อพ้อง: หญ้าหมอยแม่หม้าย ขนหมอยแม่ม่าย (สตูล) หญ้าเหล็กไผ่ (สุราษฎร์ธานี) หญ้าอีเหนียว (ชัยนาท) เหนียวหมา (ระนอง) barbed grass
ชื่อวิทยาศาสตร์: Centotheca lappacea (L.) Desv.
ชื่อวงศ์: Poaceae
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์: เป็น พืชมีอายุหลายปี ลำต้นสูง 50 - 70 เซนติเมตร ใบมีขนาดกว้าง 1.5 - 2.5 เซนติเมตร ยาว 6.5 – 15.0 เซนติเมตร ตามลำต้น กาบใบ และตัวใบจะเห็นเส้นใบลายเป็นทางยาวชัดเจน ใบมีขน ขอบใบเรียบ บางครั้งเป็นคลื่นเล็กๆ ทั้งสองด้าน ลิ้นใบ (ligule) เป็นแผ่นบางๆ สีน้ำตาล (membranous) สูง 2 - 3 มิลลิเมตร ช่อดอกแบบ panicle ยาว 15 - 43 เซนติเมตร ช่อดอกย่อย (spikelets) มี 2 - 3 ดอก ดอกมีสีเขียว ยาวประมาณ 8 มิลลิเมตร ก้านสั้นๆ ที่กาบดอกด้านล่างหรือที่ lemma มีลักษณะคล้ายหนามแหลมเล็ก ๆ จะติดไปกับเสื้อผ้าขณะเดินผ่าน ทำให้แพร่กระจายได้ง่าย ขยายพันธุ์โดยเมล็ดหรือท่อนพันธุ์ สัตว์ชอบกินปานกลาง การเจริญหลังการตัดหรือหลังสัตว์แทะเล็มช้า แต่ทนร่มเงามาก (ข้อมูลจาก nutrition.dld.go.th/.../Centotheca%20%20latifolia.htm)
ข้อมูลการใช้ประโยชน์: มีข้อมูลการใช้ในหมู่เกาะ Rotunma (ซึ่งตั้งอยู่ใกล้บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก) ใช้ใบหญ้าฮี๋ยุ่มในการรักษาโรคติดเชื้อ (McClatchey Will, 1996) นอกจากนี้ถูกระบุว่าใช้เป็นพืชสมุนไพรที่มีชื่อเสียงของแอฟริกา (แต่ไม่ระบุสรรพคุณ) (Whistler WA, 1991) ส่วนในหนังสือชื่อ CRC world dictionary of medicinal and poisonous plants ที่แต่งโดยนาย Umberto Quattrocchi (2012) ได้กล่าวถึงว่าเป็นพืชที่ใช้ในการแพทย์พื้นบ้านในเอเชียโดยใช้วิธีการต้ม รักษาภาวะเลือดออกในช่องคลอด (vaginal bleeding)
ข้อมูลเกี่ยวกับการวิจัย: พบ ว่าหญ้าฮี๋ยุ่มอายุ 45 วัน ประกอบไปด้วยคุณค่าทางอาหาร ดังนี้ โปรตีน 10.1 –18.5 เปอร์เซ็นต์ ฟอสฟอรัส 0.18 – 0.25 เปอร์เซ็นต์ โพแทสเซียม 1.54 – 2.46 เปอร์เซ็นต์ แคลเซียม 0.33 – 0.84 เปอร์เซ็นต์ ADF 29.8 – 41.3 เปอร์เซ็นต์ NDF 53.9 - 69.7 เปอร์เซ็นต์ DMD 41.7 – 60.3 เปอร์เซ็นต์ (โดยวิธี Nylon bag) ลิกนิน 6.5 - 9.1 เปอร์เซ็นต์ (ข้อมูลจาก nutrition.dld.go.th/.../Centotheca%20%20latifolia.htm)
หญ้าหียุ่ม คืนความสาวให้ทันใจ ....... หญ้าสมุนไพร รู้ใจหญิงหลังคลอด
ครั้งแรกที่ได้ยินชื่อสมุนไพรต้นนี้ ถึงกับต้องถามซ้ำอีกครั้ง แต่ก็ได้รับคำตอบเดิม พ่อหมอพูดชื่อนี้อย่างชัดถ้อยชัดคำ ไม่ได้กระดากเขินอายใดๆ อันเป็นปกติธรรมดาของคนพื้นบ้านที่มักเรียกต้นไม้ตามสรรพคุณอย่างตรงๆ ไม่ถือว่าหยาบคายแต่อย่างใด ผิดกับคนเมืองที่รู้สึกว่าเรื่องทางเพศเป็นสิ่งที่ไม่ควรนำมาพูดอย่างเปิด เผยเพราะเป็นสิ่งที่น่าอับอาย ขนาดผู้ถามซึ่งคุ้นเคยกับชื่อสมุนไพรที่อาจทำให้หลายๆ คนอายม้วนหรือตีหน้าเจี๋ยมเจี้ยม ก็ยังอึ้งไปเล็กน้อย ช่างเป็นหญ้าที่ชื่อแปลกจริงๆ แต่รู้ว่าต้องใช้กับผู้หญิงอย่างแน่นอน
ครั้นพอได้รู้ความหมายของคำว่า “ยุ่ม” ก็หมดสงสัย ยุ่ม เป็นคำในภาษาอีสาน หมายถึง รัดเข้า บีบ รวบเข้าไว้ด้วยกัน ทำให้แน่นขึ้น เช่น ยุ่มปากถุงไม่ให้คลายออก ดังนั้นสมุนไพรที่ได้ชื่อว่า หญ้าหียุ่ม ก็เนื่องจากคนโบราณนำมาใช้แล้ว เห็นถึงสรรพคุณของหญ้าชนิดนี้ว่า ช่วยให้น้องหนูของผู้หญิงที่คลอดลูก “ยุ่ม” เข้าหากัน คือ กลับมากระชับเหมือนเดิมนั่นเอง
พ่อหมอแม่หมอเมืองเลยช่วย กันบรรยายสรรพคุณของสมุนไพรชนิดนี้ปนเสียงหัวเราะและรอยยิ้มว่า “คนแต่ก่อน เพินออกลูกแล้ว มดลูกมันหย่อน บ่อเข้าอู่ บางเทือเป็นแผลฉีก ฝีเย็บขาด อักเสบได้ ผู้เฒ่าเพินกะให้เอาหญ้าหียุ่มนี่แล้ว มาต้มฮม ต้มกิน รักษาแผลให้ยุ่มเข้า กินแล้วท้องสบาย บีบมดลูกให้แห้งเข้า ขับน้ำคาวปลา ฮมบาดแผลให้แห้งเร็ว เห็นแต่หายดีคือเก่า ปานบ่อมีลูก มีผัวพู่นตั้ว”
ยารม คืนความกระชับ ไม่ต้องนับวันรอ
นอกจากเมืองเลยแล้ว ที่บ้านดงบัง จังหวัดปราจีนบุรี แหล่งปลูกสมุนไพรเกษตรอินทรีย์ ก็ใช้หญ้าหียุ่มในผู้หญิงหลังคลอดทำให้มดลูกเข้าอู่เร็วมาตั้งแต่สมัยโบราณ เช่นกัน คุณสำเเนียง ภรรยาคุณสมัย คูณสุข ผู้นำกลุ่มสมุนไพรบ้านดงบัง เล่าให้ฟังว่า เคยใช้ตอนออกลูกครั้งแรก ตามวิธีการที่คนเฒ่าคนแก่บอก คือ ให้เอาขอนดอก คือ ขอนไม้ที่ผุ มาจุดไฟ แล้วเอาหญ้าหียุ่มทั้งห้า สดหรือแห้งก็ได้ มากำใหญ่ วางบนขอนดอกที่ก่อไฟไว้ จะเกิดควันขึ้น จากนั้นผู้หญิงก็นุ่งผ้าซิ่นโดยถอดกางเกงในออก แล้วให้ไปยืนกวมหรือคร่อมขอนแล้วให้ถ่างผ้าถุงออกกว้าง ๆ ให้ควันของหญ้าหียุ่มรมเข้าไปในผ้าถุงตรงบริเวณปากช่องคลอด จะทำให้คืนความกระชับ มดลูกเข้าอู่เร็ว ให้ทำวันละ 2-3 ครั้ง คุณสำเนียงยืนยันว่า ทำแล้วให้รู้สึกว่าดีจริง การจะมีอะไรกันหลังมีลูก สามีก็ไม่ต้องรอนาน การรมนั้นอาจใช้วิธีนั่งถ่านแล้วใช้สมุนไพรหญ้าหียุ่มแทนก็ได้
การใช้หญ้าหียุ่มในแม่หญิงที่เพิ่งคลอดลูก เพื่อช่วยกระชับช่องคลอด ทำให้มดลูกเข้าอู่เร็ว และรักษาแผลได้ด้วย ช่างเป็นความเฉลียวฉลาดของคนโบราณที่รู้ปัญหาของลูกผู้หญิง และขวนขวายหาสมุนไพรมาช่วยดูแลให้อีก ตามหลักวิทยาศาสตร์ การใช้ยารมเป็นการใช้ความร้อนช่วยลดการอักเสบ และมีสรรพคุณฆ่าเชื้อโรค และหญ้าชนิดนี้เป็นพืชตระกูลไผ่จึงมีซิลิกาซึ่งเป็นสารที่มีคุณสมบัติช่วย ฟื้นฟูและสร้างเนื้อเยื่อขึ้นมาใหม่ แต่คำอธิบายที่เป็นวิชาการเหล่านี้ ก็ยังไม่หนักแน่นเท่ากับประสบการณ์ตรงของปู่ยาตายายซึ่งมีมายาวนาน
ตำรับยา
ยา ใช้รักษาแผลให้ยุ่มเข้า กินแล้วท้องสบาย บีบมดลูกให้แห้ง ขับน้ำคาวปลา สำหรับรมบาดแผลให้แห้งเร็ว (ตำรับตาเพ็ง ตาวิน ตุ้มทอง ตาบุญ)
หญ้าหียุ่มทั้งห้า 1 กำมือใหญ่ นำหญ้าหียุ่มทั้งห้า ใส่หม้อนึ่งแล้วต้มให้ยาสุก จากนั้นตักน้ำยาไว้กิน อาจเก็บใส่กระติกน้ำร้อนไว้กินแทนน้ำ หากใช้วิธีรม ให้ใช้ผ้ามาคลุมโดยให้คร่อมหม้อ ให้ไอน้ำรมตรงบริเวณปากช่องคลอด ทำเช้า เย็น
ยาสตรีออกลูกแล้วฝีเย็บขาด รักษาแผล มดลูกกระชับ (ตำรับยายสอน )
หญ้าหียุ่มทั้งห้า 1 กำมือใหญ่ เอาต้นหญ้าหียุ่มมาเผาไฟ ให้ควันขึ้น แล้วยืนเอาผ้าล้อมไว้ ถอดผ้านุ่งออก ให้ควันโดนฝีเย็บ ให้ทำเช้าเย็น ทำทุกวัน
เนื่องจากทุกๆ ปีของงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ จะมีหัวข้องานที่แตกต่างกันไปในแต่ละปี และในปีนี้มีหัวข้องานในเรื่องของการดูแลสุขภาพของเพศหญิง ในแต่ละปีอภัยภูเบศรจะมีทีมงานเข้าไปเก็บเกี่ยวองค์ความรู้จากหมอยาพื้นบ้าน คนโบราณ รวมถึงสืบค้นหาองค์ความรู้สมุนไพรและภูมิปัญญาไทย เพื่อเก็บข้อมูลเป็นลายลัษณ์อักษรไม่ให้สูญหายไปจากแผ่นดิน สมุนไพรที่นำเสนอบางชนิดจึงเป็นเพียงการนำเสนอองค์ความรู้ภูมิปัญญา เพื่อสืบสานต่อไปยังรุ่นสู่รุน เนื่องจากอภัยภูเบศรเป็นองค์กรหนึ่งที่ทำหน้าที่ดูแลและสืบสานองค์ความรู้และภูมิปัญญาสมุนไพร อีกทั้งสมุนไพรบางชนิดการนำมาใช้เป็นยา ไม่สามารถตั้งตำรับให้ออกมาเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปได้ เนื่องจากรูปแบบการใช้มักเป็นวิธีต้มกินแบบโบราณ หรือบางชนิดต้องเป็นยาย่าง ยารม และยังต้องคำนึงถึงการควบคุณคุณภาพที่สม่ำเสมอของวัตถุดิบที่จะนำ มาทำเป็นยา ดังนั้น หากท่านต้องการรู้จักสมุนไพรหายากมากสรรพคุณ รวมถึงองค์ความรู้ภูมิปัญญาจากหมอยาพื้นบ้าน มาพบกับเราได้ที่ งานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 11 วันที่ 3-7 กันยายน อิมแพ็ค เมืองทองธานี ฮอลล์ 6-7-8 ค่ะ และในแต่ละวันจะมีต้นสมุนไพรแจกฟรีวันละ 1 ชนิด โดยจะแจก 2 รอบ รอบละ 150 ต้น เวลา 10.00 และ 12.00 น. ค่ะ และจะมีการนำหญ้ายุ่มไปจำหน่ายในงาน ในจำนวนจำกัด ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ค่ะ
ข้อมูลจาก http://www.abhaiherb.com